GS PKRU Talk : เจาะลึกหลักสูตรที่สร้างเถ้าแก่และสตาร์ทอัพบนเมืองท่องเที่ยวระดับโลก “สาขาบริหารธุรกิจ ปริญญาโท (MBA)”

บทสัมภาษณ์ ผศ.ดร.บัณฑิต ไวว่อง เจาะลึกความน่าสนใจของหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ GS PKRU 

“สร้างผู้นำทางความคิด บนเมืองท่องเที่ยวระดับโลก” ด้วยแนวคิดที่ชัดเจนของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่น หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จึงถูกพัฒนาขึ้นจากบริบทการเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติของจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างผู้นำทางความคิด สร้างเถ้าแก่ หรือสตาร์ทอัพ เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะ 

ผศ.ดร.บัณฑิต ไวว่อง ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดบทสนทนาเกี่ยวกับหลักสูตรนี้ “จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นเมืองเศรษฐกิจ ภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง และมีความต้องการบุคลากรเพื่อสนับสนุนในภาคธุรกิจมากมาย หลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาบริหารธุรกิจ หรือ MBA ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นหลักสูตรที่เปิดสอนมานานกว่า 15 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่นสังคม ซึ่งเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีนักศึกษาที่มาเรียนนอกจากจะมาจากภาคธุรกิจแล้วยังมาจากภาครัฐด้วย หน่วยงานภาครัฐในจังหวัดภูเก็ตมีความสนใจมาเรียนกันเยอะมาก เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐก็ต้องการสนับสนุนภาคเอกชนและเดินหน้าควบคู่ไปด้วยกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดภูเก็ตและภูมิภาคนี้”

“สำหรับวัตถุประสงค์ในการผลิตบัณฑิตปริญญาโทของหลักสูตร MBA คือเราต้องการให้ผู้เรียนมีแนวคิดในด้านการบริหารจัดการ ที่ผ่านมาผู้ที่เข้ามาเรียนที่นี่บางท่านเป็นนักบริหารอยู่แล้วก็มา Reskill มาเพิ่มเติมมุมมองการบริหารจัดการใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์โลกยุคปัจจุบัน อีกกลุ่มหนึ่งเป็นระดับปฏิบัติการต้องการจะปรับเลื่อนตำแหน่งสู่การเป็นผู้บริหารก็มา Upskill เพื่อพร้อมสำหรับการโปรโมทเป็นผู้บริหาร มุมมองการบริหารจัดการที่เรามุ่งเน้นสร้างให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปริญญาโท MBA ประกอบด้วย 5M สำหรับ M ตัวแรก คือ Manpower การบริหารจัดการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ M ที่สอง Money การบริหารจัดการการเงินการบัญชี โดยเฉพาะโลกยุคปัจจุบัน FINTECH คือ Financial และ Technology เป็นเรื่องที่ต้อง Upskill กันตลอดเวลา M ที่สาม Method เครื่องมือต่างๆ Big Data มีเทคโนโลยีอะไรที่จะมาซัพพอร์ทการบริหารธุรกิจได้บ้างเราต้องเรียนรู้ M ที่สี่ Management การบริหารจัดการ และ M สุดท้าย Marketing การตลาด หลักสูตรของเรามุ่งเน้นสร้างบุคลากรที่มีแนวคิด 5M ให้มีความพร้อมออกไปสู่การทำงานในโลกยุคปัจจุบัน”

“การเรียนการสอนในหลักสูตรปริญญาโท MBA ในปีการศึกษาแรกเทอมแรก นักศึกษาจะเรียนในรายวิชาพื้นฐานการบริหารธุรกิจ เพื่อเป็นการปรับพื้นฐานสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีมาจากหลากหลายสาขา ทุกคนมาเรียน MBA ได้ เราเปิดกว้างไม่ว่าจะมาจากสายวิทยาศาสตร์ สายสาธารณสุข สายวิศวะ กำลังจะโปรโมทเป็นผู้บริหาร แต่ไม่มีพื้นฐานด้านการบริหารเลย ก็มาเติมเต็มความรู้ในส่วนนี้ เมื่อเข้าสู่ภาคเรียนที่สองจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทำวิจัย นำองค์ความรู้ด้านการวิจัยไปหาคำตอบ ไปแก้ไขปัญหา หรือไปพัฒนาหน่วยงานของท่าน ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในชั้นเรียน นำกระบวนการวิจัยมาเป็นหลักทฤษฎีในการหาแนวทางในการพัฒนา แก้ไขปัญหา หาคำตอบ จนกระทั่งได้แนวทางในการทำวิทยานิพนธ์ ในเทอมที่สาม ซึ่งเป็นเทอมซัมเมอร์ ก็จะเริ่มการทำวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ มีสองทางเลือก แผนการทำวิทยานิพนธ์จะเหมาะกับผู้ที่อยากต่อยอดในระดับปริญญาเอก เป็นดอกเตอร์ในอนาคต เราก็จะเสนอแนะให้เรียนแผนวิทยานิพนธ์ เพื่อเดินสายวิชาการ มุ่งสู่การเป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ในอนาคต แต่สำหรับนักปฎิบัติการ เราจะแนะนำให้เรียนแผนการค้นคว้าอิสระ คือมุ่งทำงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาองค์กรของท่านเอง หลังจากผ่านเทอมซัมเมอร์ซึ่งเป็นการเลือกแผนก็เป็นอันจบชั้นปีที่หนึ่ง เมื่อเข้าสู่ชั้นปีที่สอง จะเป็นรายวิชาเลือก ซึ่งแต่ละท่านมีความสนใจหรือความถนัดแตกต่างกันออกไป บางท่านชอบมุมมองด้านการท่องเที่ยว ก็จะไปเสริมความรู้ในมุมมองด้านธุรกิจการท่องเที่ยว บางท่านสนใจมุมมองของหน่วยงานภาครัฐ ก็จะไปมุ่งเน้นทฤษฎีการบริหารจัดการองค์กรของภาครัฐ บางท่านเป็นผู้ประกอบการเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็จะใช้กรณีศึกษาเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้ดีขึ้น ความรู้เอาไปใช้ได้จริง ไม่ใช่เอาไปขึ้นหิ้ง ซึ่งเราก็มีแนวทางให้แต่ละท่านได้เลือกตามความสนใจ” ผศ.ดร.บัณฑิต อธิบายให้เข้าใจว่าหลักสูตรปริญญาโท MBA เรียนอะไรกันบ้าง ก่อนจะยกตัวอย่างการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจของนักศึกษาที่ผ่านมา 

“ตัวอย่างผลงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโท MBA มีหลากหลายสาขา ทั้งในสายงานด้านการท่องเที่ยว เช่น งานวิจัยที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นงานวิจัยที่มีประโยชน์มาก ธุรกิจโรงแรมสามารถนำไปใช้ได้จริง นักศึกษาทำงานภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ทำงานวิจัยชิ้นนี้โดยมุ่งหวังว่าจะนำไปใช้แก้ปัญหาในหน่วยงานของตัวเอง และสังคมก็นำไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย จึงเกิดเป็นงานวิจัยชิ้นนี้ขึ้นมา จะเห็นได้ว่างานวิจัยประเภทค้นคว้าอิสระจะเน้นการนำไปปฏิบัติได้จริง แก้ปัญหาได้จริง เหมาะกับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น”

“ในสายงานราชการก็เคยมีผู้บริหารจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมาเรียนกับเรา ท่านสนใจทำผลงานเรื่องสับปะรดภูเก็ต เพราะได้รับมอบหมายจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยากจะโปรโมทสับปะรดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จัก ท่านก็นำแนวคิดนั้นมาศึกษาวิจัยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสับปะรดภูเก็ต ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ขานรับนโยบายร่วมกับทางจังหวัด บูรณาการต่อยอดในหลายคณะ ร่วมกันส่งเสริมเกษตรกรทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสับปะรดภูเก็ต คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และได้ส่งเสริมด้านการตลาดประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยของนักศึกษาในหลักสูตรของเราที่เกิดการขยายผลและประสบผลสำเร็จเกิดประโยชน์ต่อจังหวัดภูเก็ต”

“สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยประเภทวิสาหกิจชุมชนก็มีเช่นกัน ที่เป็นลูกหลานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นลูกหลานของกลุ่มแม่บ้านส่งมาเรียนในหลักสูตรนี้ เพื่อต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ของชุมชน อยากขายออนไลน์ อยากขายใน TikTok แพลตฟอร์มซึ่งกำลังมาแรง ท่านก็ส่งลูกหลานมาเรียน เพราะมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตของเราค่าเทอมไม่แพง เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนท้องถิ่น นักศึกษามาเรียนแล้วก็ทำงานวิจัยจากธุรกิจวิสาหกิจชุมชนของเขาเอง นำความรู้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งในส่วนของการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ อาจารย์ของเราอาจจะให้คำแนะนำโดยตรงไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ในสายวิทยาศาสตร์ แต่เราก็สามารถเชิญเครือข่ายคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มาให้ความรู้ให้คำแนะนำได้ เช่น เรื่องการถนอมอาหาร การยืดอายุผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์แบบไหนที่จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ส่งไปขายได้ไกลขึ้น เรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. มอก. ฮาลาล ต่างๆ เรามีคณาจารย์จากคณะอื่นๆ ที่ช่วยให้คำแนะนำได้ ส่วนเรื่องการขายก็ส่งมาที่เรา เราถนัดเรื่องการขาย หลังจากที่มาเรียนนักศึกษาได้เครือข่ายได้คอนเนคชั่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชน ไม่ใช่แค่ในแง่มุมธุรกิจแต่สามารถช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ในภาพรวมได้เลย”

“นักศึกษาจากภาคสังคม ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เราภาคภูมิใจ ที่ผ่านมามีประธานชมรมผู้พิการจังหวัดภูเก็ตมาเรียนกับเรา ท่านสนใจพัฒนาแนวคิดด้านการบริหารจัดการ และสนใจประเด็นโอกาสในการทำงานของผู้พิการ ตามกฏหมาย สถานประกอบการจะต้องรับบุคลากรที่เป็นผู้พิการเข้าทำงานตามสัดส่วนจำนวนพนักงาน แต่ปัจจุบันพบปัญหาว่าสถานประกอบการบางแห่งก็เลี่ยงการรับผู้พิการเข้าทำงานโดยยอมจ่ายเป็นเงินทดแทน อาจจะด้วยความไม่พร้อมหลายๆ ด้าน และผู้พิการเองก็ขาดทักษะที่จะเข้าทำงาน ประธานชมรมผู้พิการท่านนี้ก็ศึกษาในประเด็นที่จะทำอย่างไรให้ผู้พิการได้พัฒนาสมรรถนะให้มีความพร้อม Upskill ขึ้นมาให้ได้ ทำอย่างไรให้สถานประกอบการมีความพร้อมเปิดใจเปิดรับผู้พิการเข้าทำงาน จะได้เป็นการประสานประโยชน์ทั้งสองฝ่าย งานวิจัยชิ้นนี้จึงได้เกิดประโยชน์จริงแก่กลุ่มผู้พิการในสังคม”

“สิ่งที่เราภาคภูมิใจ ไม่ใช่เพียงแค่การให้ความรู้ แต่เป็นการเชื่อมโยงสังคมเข้าด้วยกัน” ผศ.ดร.บัณฑิต เล่าถึงสิ่งที่ได้มากกว่าการเรียนการสอน “นอกจากหลักสูตรจะสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถออกไปทำงานพัฒนาภาคธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้า ออกไปบริหารขับเคลื่อนภาครัฐหรือชุมชนท้องถิ่นให้เจริญยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่มีคุณค่าและหาไม่ได้ง่ายๆ คือบรรยากาศในการเรียนรู้ ที่เต็มไปด้วยความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจเป็นหลักสูตรแห่งความร่วมมืออย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่ตัวหลักสูตรที่ต้องผ่านการประเมินจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวผู้เรียนเอง มหาบัณฑิตที่เรียนจบไปแล้ว ผู้ใช้บัณฑิต นายจ้าง ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคม ชมรม ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักวิชาการ ภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัย เราเชิญท่านเหล่านั้นมาร่วมประเมินหลักสูตร เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องทุกปี และทุกๆ 5 ปี เพื่อให้หลักสูตรของเราเป็นหลักสูตรที่ทันกับการใช้งาน ทันกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทันโลกทันสมัย”

“ในส่วนของคณาจารย์ผู้สอน มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตเรามีฐานที่ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้เป็นวิทยาเขต มีการจัดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ มีอัตรากำลังบุคลากรเต็มที่ เรามีคณาจารย์จากหลากหลายสาขาที่พร้อมจะมาช่วยสอน อาจารย์จากสาขานิเทศศาสตร์ซึ่งเก่งเรื่องผลิตสื่อ เราก็เชิญมาช่วยสอน อาจารย์สาขานิติศาสตร์ ด้านการปกครอง ด้านกฏหมาย ผู้บริหารต้องทราบเรื่องกฏหมายแรงงาน กฏหมาย PDPA เราก็เชิญอาจารย์จากนิติศาสตร์มาช่วยสอน นอกจากนี้ยังมีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยาย เช่นที่ผ่านมาเราเชิญทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรสมาคมวิชาชีพต่างๆ มาบรรยายให้นักศึกษาในหลักสูตรฟัง เราโชคดีที่จังหวัดภูเก็ตมีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งมาก ท่านเหล่านั้นพร้อมที่จะมาแชร์ความรู้แชร์ประสบการณ์ พร้อมจะช่วยเหลือสังคม ในหลักสูตรมีผู้เรียนที่มาจากหลากหลายสายงานได้มีโอกาสเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ที่ผ่านมาเคยมีนักศึกษาของเราทำงานที่ประกันสังคมเจอปัญหาเรื่องลูกจ้างรวมตัวกันประท้วง ก็ได้มาเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นนายจ้าง อีกท่านทำงานด้านภาษีสรรพากร อีกท่านทำงานที่คลังจังหวัด ก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ปัญหากัน หลักสูตรของเราจึงเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างแท้จริง”

การเรียน MBA มีความสำคัญหรือจำเป็นอย่างไร ในยุคสมัยที่ใครๆ ก็ทำธุรกิจได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ คำถามนี้ ผศ.ดร.บัณฑิตตอบพร้อมเชิญชวนผู้สนใจมาเรียนในหลักสูตรนี้ว่า “การเรียน MBA เป็นการพัฒนา Mindset ในการคิดเชิงบริหารจัดการ การเรียน MBA ไม่ใช่เรียนเพื่อไปทำธุรกิจอย่างเดียว แต่เราทุกคนสามารถได้ประโยชน์จากการเรียน MBA ในการทำงานทั้งในระดับปฏิบัติการ ระดับผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ Entrepreneur นักบริหาร นักศึกษาของเรามีความหลากหลาย รวมทั้งพระสงฆ์เองก็ยังสนใจมาเรียนหลักสูตรปริญญาโท MBA กับเรา ซึ่งเราก็เปิดรับและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มพระคุณเจ้าได้มาเรียนด้วย มากกว่าการเรียนรู้คือการได้มองเห็นมุมมองด้านการบริหารจัดการอย่างรอบด้าน ได้เข้าใจแง่มุมมิติอื่นๆ นอกเหนือจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ เข้าใจความแตกต่าง และจะนำความรู้ประสบการณ์ไปใช้บริหารจัดการและพัฒนาตัวเอง พัฒนาหน่วยงาน พัฒนาสังคมของเราได้อย่างไร ให้เป็นสังคมฐานความรู้ ให้เป็นสังคมแห่งการช่วยเหลือแบ่งปันสร้างสรรค์ ไม่ได้อยากเชิญชวนให้มาเรียนอย่างเดียว แต่อยากเชิญชวนให้มาเป็นเครือข่ายของการพัฒนาในหลักสูตรนี้ร่วมกัน”

ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : https://www.facebook.com/gspkru  และเว็บไซต์  https://graduate.pkru.ac.th

Scroll to Top